บุญผะเหวด: วิถีร่วมแห่งศรัทธาอีสาน

31
views

“บุญผะเหวด” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “บุญเดือน 4” เป็นงานบุญในฮีตสิบสอง หรืองานบุญ 12 เดือนในวิถีชีวิตของชาวอีสาน ที่นำพาผู้คนดำเนินชีวิตไปบนเส้นทางแห่งศีลธรรม ความเชื่อ และประเพณีท้องถิ่น เป็นหนึ่งในงานบุญสำคัญที่ยึดถือกันมาแต่โบราณ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อระลึกถึงพระเวสสันดรชาดก พระชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้า ก่อนที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คำว่า “บุญผะเหวด” เป็นสำเนียงภาษาถิ่นอีสาน เพี้ยนมาจากคำว่า “บุญพระเวส” ที่มาจากพระเวสสันดร ซึ่งเป็นชื่อของพระโพธิสัตว์ในชาติที่สิบที่ทรงบำเพ็ญบารมีด้วยการสละทุกสิ่ง แม้กระทั่งบุตร ภรรยา เพื่อมุ่งสู่การตรัสรู้ งานบุญนี้จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งการให้ทาน ความอดทน และการปล่อยวาง อันเป็นแก่นธรรมของพุทธศาสนา และการฟังเทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์ จึงถือเป็นหัวใจสำคัญของงาน เพื่อหวังผลบุญอันยิ่งใหญ่  กับความเชื่อที่ว่า “ผู้ใดได้ฟังเทศน์มหาชาติครบทั้ง 13 กัณฑ์ในวันเดียว ผู้นั้นจะได้ไปสู่พระนิพพาน”

 นอกจากมิติทางศาสนา บุญผะเหวด ยังเป็นประเพณีสำคัญในการแสดงพลังของชุมชนที่ร่วมแรงร่วมใจกันอย่างเข้มแข็ง  ชาวบ้านจะมีบทบาทอย่างมากในกิจกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่การกำหนดวันจัดงาน นิมนต์พระสงฆ์ แบ่งกันเป็นเจ้าภาพในกัณฑ์ต่าง ๆ รวมไปถึงประดับตกแต่ง การเตรียมเครื่องบูชา ไปจนถึงการจัดการพิธีกรรมทั้งหมด ซึ่งสะท้อนให้เห็นแง่ความสามัคคี วิถีชีวิตร่วมกัน และการส่งต่อองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่น โดยก่อนวันงาน 1 วัน ชาวบ้านจะช่วยกันตกแต่ง โฮงธรรมหรือศาลาการเปรียญ ให้กลายเป็นภาพจำลองของป่าหิมพานต์สถานที่ซึ่งปรากฏในพระเวสสันดรชาดก โดยตั้งโอ่งน้ำไว้ 4 โอ่ง แทนสระน้ำ และประดับธงชัยทั้งแปดทิศเพื่ออัญเชิญพลังแห่งทิศต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีการสร้าง หออุปคุต ซึ่งเป็นสถานที่อัญเชิญ “พระอุปคุต” ตามความเชื่อว่าจะช่วยปราบมารหรือสิ่งชั่วร้ายที่อาจมาขัดขวางงานบุญ อีกสิ่งหนึ่งที่สะท้อนรากวัฒนธรรมและความเชื่อคือการจัดเตรียม “เครื่องฮ้อยเครื่องพัน” หรือ “เครื่องคุรุพัน” ซึ่งประกอบด้วยดอกไม้ ธูป เทียน หมากพลู ข้าวตอก มวนยาเส้น และธุงกระดาษ อย่างละ 1,000 ชิ้น จำนวนนี้ตรงกับจำนวนคาถาในเทศน์มหาชาติ ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อเป็นเครื่องบูชาคาถาพัน การเตรียมเครื่องฮ้อยเครื่องพันนี้ไม่ได้ทำขึ้นเพียงเป็นพิธี หากแต่เป็นจารีตที่มีความเชื่อว่า หากเตรียมไม่ครบหรือผิดพลาด จะนำมาซึ่งอาเพศ ความไม่สงบสุขของหมู่บ้าน เช่น ฝนแล้ง หรือภัยพิบัติธรรมชาติ เป็นการแสดงให้เห็นว่าพิธีกรรมทางวัฒนธรรมไม่เพียงแต่ยึดโยงกับศาสนา แต่ยังสอดคล้องกับจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมและความมั่นคงของชุมชน

เมื่อถึงวันแรกของงานซึ่งเรียกว่า “มื้อโฮม” หรือวันรวม ชาวบ้านจะเริ่มต้นด้วยการทำบุญตักบาตรในช่วงเช้า และในช่วงบ่ายจะประกอบพิธีอัญเชิญพระอุปคุต หลังจากนั้นจะเริ่มพิธีแห่ผ้าผะเหวดเข้าวัด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญ “ผ้าผะเหวด” คือผ้าผืนยาวที่เขียนภาพเรื่องราวของพระเวสสันดรชาดกไว้ครบทั้ง 13 กัณฑ์ ผู้คนจะร่วมขบวนแห่ผ้าด้วยความศรัทธา โดยแห่เวียนขวารอบโฮงธรรม 3 รอบ แล้วจึงนำไปขึงไว้รอบศาลาการเปรียญ เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้เห็นภาพประกอบเทศน์ขณะฟังเทศน์มหาชาติ เป็นการเชื่อมโยงธรรมะให้จับต้องได้ผ่านงานศิลปะและความคิดสร้างสรรค์แบบพื้นบ้าน อีกหนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่สะท้อนความศรัทธาและพลังร่วมของชุมชนได้อย่างชัดเจน คือ การแห่กัณฑ์หลอน เป็นกัณฑ์พิเศษในการเทศน์มหาชาติที่ไม่ได้กำหนดเจ้าภาพไว้ล่วงหน้า แต่เกิดจากการรวมตัวของชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธา ส่วนมากจะเข้ามาช่วงบ่ายหรือค่ำ โดยจัดทำ ต้นกัณฑ์หลอน ขึ้นเพื่อแห่ไปถวายพระที่กำลังเทศน์อยู่ภายในวัด ต้นกัณฑ์หลอน มักใช้วัสดุในท้องถิ่น เช่น กระบุง กระจาดไม้ไผ่ หรือถังน้ำพลาสติก ภายในใส่ข้าวสารประมาณครึ่งถัง แล้วนำต้นกล้วยตั้งไว้ตรงกลาง ก่อนจะเสียบธนบัตรที่ผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันบริจาค เพื่อมาถวายพระที่เทศน์ในวัดโดยไม่เจาะจง ขบวนแห่กัณฑ์หลอนจะมีทั้งความสนุกสนานและความศรัทธา ประกอบด้วยการฟ้อนรำ การตีฆ้อง กลอง เป่าแคน ดีดพิณ และในบางพื้นที่ยังมีตัวละครจากเรื่องเวสสันดรชาดก เช่น กัณหา ชาลี และชูชก ร่วมเดินในขบวนแห่ ทำให้ขบวนมีสีสัน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างเข้าร่วมอย่างมีชีวิตชีวา วันที่ 2 ของงานเรียกว่ามื้องัน (วันเทศน์) ตอนเช้าประมาณ 05:00 น. จะมีการแห่ข้าวพันก้อน เป็นข้าวเหนียวปั้นเป็นก้อนกลมขนาดหัวแม่มือจำนวน 1,000 ก้อน ที่ชาวบ้านช่วยกันปั้น นำมาแห่รอบโฮงธรรม 3 รอบ จากนั้นพระภิกษุสามเณรก็จะเริ่มเทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์จนจบ ถือเป็นการสิ้นสุดงานบุญผะเหวด

อ้างอิง

Esanpedia. (2565). บุญผะเหวด (พระเวส) ระเบียบพิธีบุญเดือนสี่ในฮีตสิบสองแบบดั้งเดิมอีสาน.

สืบค้นจาก https://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th/esaninfo/?p=6024

กรมส่งเสริมวัฒนธรรม. (2563). กัณฑ์หลอน คืออะไร…สืบค้นจาก https://www.culture.go.th/culture_th/ewt_news.php?nid=5254&filename=

จักรมนตรี ชนะพันธ์. (2568). ที่มาและความหมายของ “บุญผะเหวดอีสาน” งานบุญสำคัญ กับมหาทานบารมี. สืบค้นจาก https://www.silpa-mag.com/culture/article_6667

อู่ทอง ประศาสน์วินิจฉัย. (2564). เป็นคนไทยทั้งที. คอมแพคท์พรินท์. หน้า 12-15.

บทนิทรรศการโดย: พลอยพชร ธัญญะพิเศษศักดิ์ นักศึกษาคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

วัดทางสาย ประจวบคีรีขันธ์
วัดธาตุประสิทธิ์ นครพนม
วัดธาตุประสิทธิ์ นครพนม
วัดโพธิ์ชัย หนองคาย
วัดหนองแวง ขอนแก่น