บุญบั้งไฟ เป็นหนึ่งในประเพณีสำคัญที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานของชาวอีสาน อยู่ในกลุ่ม “ฮีตสิบสอง” หรืองานบุญ 12 เดือนของชาวอีสาน จัดขึ้นในเดือนพฤษภาคม เพื่อทำบุญขอฝนและบูชา “พญาแถน” บันดาลให้ฝนตกตามฤดูกาลเพาะปลูก เพื่อความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณธัญญาหารที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของผู้คน
ความเป็นมาของ บุญบั้งไฟ มีที่มาจาก ตำนานพญาคันคาก เล่าว่า พญาแถนเกิดความโกรธเคืองมนุษย์ เนื่องจากผู้คนหันไปนับถือพญาคันคากมากกว่าตน จึงบันดาลให้เกิดความแห้งแล้งยาวนานถึง 7 ปี 7 เดือน ทำให้พญาคันคาก (พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นคางคก) อาสานำทัพสัตว์ต่างๆ ไปต่อสู้กับพญาแถน โดยใช้สติปัญญาและกลอุบายอันชาญฉลาด จนสามารถเอาชนะพญาแถนได้ในที่สุด หลังจากชัยชนะ พญาแถนได้ ตกลงทำสัญญา 3 ประการกับพญาคันคากว่า:
- ถ้ามนุษย์จุดบั้งไฟขึ้นสู่ท้องฟ้าเมื่อใด พญาแถนต้องสั่งให้ฝนตกในโลกมนุษย์
- ถ้าได้ยินเสียงกบ เขียดร้อง ให้รับรู้ว่าฝนได้ตกลงมาแล้ว
- หากได้ยินเสียงสนู (เสียงธนูหวายของว่าว) หรือเสียงโหวด (เครื่องดนตรีอีสาน) ให้ฝนหยุดตกเพราะจะเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยว
ด้วยเหตุนี้ ประเพณีบุญบั้งไฟจึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงพันธสัญญาและเพื่อแสดงความเคารพต่อ พญาแถนขอให้ท่านบันดาลฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล
กิจกรรมในงานบุญบั้งไฟจะเต็มไปด้วยสีสันและความคึกคัก โดยมีกิจกรรมหลักๆ ดังนี้ 1.) การเตรียม บั้งไฟ: ชาวบ้านจะร่วมกันประดิษฐ์บั้งไฟขนาดต่างๆ โดยบั้งไฟจะถูกตกแต่งอย่างสวยงาม มีลวดลายเกี่ยวกับพญานาค 2.) ขบวนแห่บั้งไฟ: เป็นไฮไลท์ของงาน ผู้คนจะแต่งกายด้วยชุดพื้นเมือง จัดขบวนแห่บั้งไฟอย่างยิ่งใหญ่ มีการรำเซิ้ง ดนตรีพื้นบ้าน และการแสดงต่างๆ อย่างสนุกสนานครื้นเครง บางขบวนอาจมีการแห่รูปปั้นปลัดขิก เพื่อกันภูตผีที่จะมาขัดขวางไม่ให้พญาแถนส่งฝนลงมา 3.) การจุดบั้งไฟ: หลังจากการแห่ ก็จะเป็นพิธีจุดบั้งไฟขึ้นสู่ท้องฟ้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนตื่นเต้นและลุ้นระทึก โดยมีการแข่งขันความสูง ความสวยงามของบั้งไฟแต่ละคณะ
สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นทำให้เห็นว่า ประเพณีบุญบั้งไฟ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การขอฝนเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงวิถีชีวิต จิตวิญญาณ การสืบทอดภูมิปัญญาและเอกลักษณ์ท้องถิ่น รวมถึงความสามัคคีในชุมชน ทำให้ได้รับการขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ประจำปี พ.ศ. 2556 เป็นการยืนยันถึงคุณค่าและความสำคัญของประเพณีนี้ที่มีต่อสังคมไทย
อ้างอิง
อู่ทอง ประศาสน์วินจฉัย. (2564). เป็นคนไทยทั้งที. คอมแพคท์พรินท์. หน้า 28-31.
https://www.dmc.tv/article/14366
https://travel.trueid.net/detail/MeJLGwlJzvN
https://www.ubu.ac.th/web/rocket/content/ตำนานพญาคันคาก%2F
https://ich-thailand.org/article/detail/6291f35836ab3f111c557350
บทนิทรรศการโดย: กุลนภา บวรเตชธนกุล นักศึกษาคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์





